Friday, February 06, 2009

ไม่เข้าใจ

โดยมากเราจะเห็นนักการเมืองที่ไม่เข้าใจอะไรเลยทำทีเหมือนกับว่าตัวเองรู้ไปทุกเรื่อง แต่ช่วงนี้แปลก คือนักการเมืองไทยที่น่าจะเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ดีกลับทำทีราวกับว่าตัวเองไม่เข้าใจอะไรเลย

เรื่องผู้อพยพโรฮิงญาเป็นที่สนใจของโลกในส่วนที่เกี่ยวกับไทยเพราะว่า 1) มีการกล่าวอ้างว่าถูกทหารไทยทารุณกรรม 2) มีหลักฐานภาพถ่ายว่าการกล่าวอ้างดังกล่าวมีมูล 3) การทารุณกรรมที่กล่าวอ้างดังกล่าวนั้นหากเป็นจริงได้ทำให้คนตายราว 500 คน 4) รัฐบาลไทยที่อ้างว่าเชิดชูสิทธิมนุษยชนกลับปฏิเสธก่อนที่จะสอบสวนข้อเท็จจริง

ไม่มีใครตั้งข้อกังขากับนโยบายผลักดันผู้อพยพ เพราะหลายประเทศก็มีนโยบายทำนองเดียวกัน แต่ที่กังขาคือทำไมการผลักดันจึงทำด้วยความไร้มนุษยธรรมเช่นนั้น (คือลากออกไปในน่านน้ำสากลโดยไม่ให้อาหารและน้ำเพียงพอแล้วปล่อยให้ลอยเท้งเต้งตามยถากรรม)

นักการเมืองบางคนพยายาม spin ว่าสื่อต่างชาติสมคบร่วมคิดกันทำลายประเทศไทย สงสัยจะเป็นเพราะมีคนไทยบางกลุ่ม (จะใครซะอีกถ้าไม่ใช่ทักษิณ) จ้างให้เขียนเพื่อทำลายประเทศ

แต่อย่าลืมนะครับว่าตอนที่ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี สื่อต่างชาติก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับรัฐบาลเหมือนกัน ถึงกับมีการไล่นักข่าว Far Eastern Economic Review สองนายออกนอกประเทศ

สมัยทักษิณเป็นนายกก็มีกรณีที่ทหารปฏิบัติต่อผู้คนราวกับไม่ใช่มนุษย์เช่นกัน นั่นคือการผูกมือไพล่หลังชาวไทยมุสลิมแล้วจับนอนคว่ำหน้าเรียงซ้อนกันเหมือนท่อนฟืนในรถบรรทุก จนหลายสิบคนตายเพราะถูกกดทับจนหายใจไม่ออกและขยับตัวไม่ได้

ตอนนั้นสื่อต่างชาติก็โจมตีรัฐบาลทักษิณในกรณีนี้และอีกหลายกรณี แต่สงสัยคนไทยที่หาว่าสื่อต่างขาติมีอคติไม่ได้อ่าน แบบเดียวกับเรื่องโรฮิงญานี่แหละครับ ต้องรอให้มีคนแปลให้อ่านเสียก่อน

ข้อเท็จจริงก็คือสื่อต่างชาติถือว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องจับตาสอดส่องดูพฤติกรรมของรัฐบาลที่อยู่ในอำนาจ ไม่ว่ารัฐบาลนั้นจะเป็นทักษิณหรืออภิสิทธิ์หรือใครก็แล้วแต่

ความจริงถ้ารัฐบาลสนใจชื่อเสียงของประเทศในสายตาประชาคมโลกก็ง่ายนิดเดียว คือแทนที่จะแกล้งโง่และคิดว่าคนไทยโง่พอที่จะหลงเชื่อไปด้วย ก็ให้มีการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเที่ยงธรรมและโปร่งใส ซึ่งหมายความว่าอย่ามอบหมาย (หรือยอม) ให้ทหารสอบสวนกันเอง แต่ให้กรรมการที่เป็นกลางและไม่มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นผู้ดำเนินการสอบสวน แค่นั้นก็เรียบร้อย

จะยากอยู่นิดเดียวก็ตรงที่เมืองไทยสมัยนี้หาคนที่เป็นกลางและไม่มีส่วนได้ส่วนเสียยากเต็มที

No comments: