Wednesday, October 29, 2003

การเรียงลำดับในเดลินิวส์ออกจะสับสนเล็กน้อย ผมจึงขอนำมาลงในนี้อีกทีแล้วกันนะครับ

เพลงเอเปค (1)
เมื่อปลายเดือนกันยายน ผมได้รับการทาบทามให้แปลเนื้อเพลงเอเปคจากไทยเป็นอังกฤษ เพราะว่าผู้ที่ได้รับการทาบทามแต่เดิมติดภารกิจอย่างอื่น
ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะทำได้หรือเปล่า เพราะไม่เคยแปลเนื้อเพลง เคยแต่แต่ง และเพลงส่วนใหญ่ที่แต่งก็ไม่ค่อยดังซะด้วย ยกเว้นเพลงเดียวคือ “ฝน” (อยากจะลืมใครสักคน…)
ยิ่งพอดูเนื้อเพลงภาษาไทย (“เรารวมกัน”) ที่ไพเราะแล้วก็รู้สึกว่าถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษก็คงรักษาความไพเราะนั้นไว้ได้ยาก ลองยกร่างหลายทีแต่ก็ไม่ได้เรื่องสักที อย่ากระนั้นเลย แต่งใหม่เลยดีกว่า (ขี้โกงเนอะ)
ถ้าคุณเปิดทีวีช่อง 11 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คงได้ยินเพลงนี้กรอกหูอยู่บ่อยๆ ดังนั้นผมขอเอาเนื้อเพลงนี้มาเล่าสู่กันฟังหน่อยแล้วกันนะครับ (โอ๊ย จะปามะเขือเทศทั้งทีก็เลือกลูกเน่าๆ หน่อยสิ จะได้ไม่เจ็บมาก)
ท่อนแรกซึ่งขึ้นว่า Here we are, reaching out across the ocean (= เรามาอยู่ตรงนี้ เอื้อมหากันข้ามมหาสมุทร) ก็ไม่ได้มีสำนวนพิสดารอะไร แต่มีวลีที่ใช้กันบ่อยๆ คือ Here we are. ซึ่งมักใช้เวลาจะบอกใครว่า นี่ไง เรามาอยู่ตรงนี้แล้ว เช่นเวลาเราขับรถไปถึงจุดหมายปลายทางเราก็บอกคนที่นั่งไปกับเราได้ว่า Here we are. เป็นการบอกว่าถึงแล้วนะ
reach out แปลว่า เอื้อมออกไป reach out to (someone) = เอื้อมหา (ใครบางคน) ซึ่งอาจเป็นการเอื้อมมือจริงๆ หรือเอื้อมโดยนามธรรมก็ได้ เช่น We have to reach out to the public and tell them what our company is about. = เราต้องสื่อออกไปยังประชาชนและบอกเขาว่าบริษัทเราทำอะไร
เวลาเป็นนาม reach out ก็กลายเป็น outreach = การสื่อออกไปยังกลุ่มอื่นๆ นอกองค์กร ซึ่งรวมถึงการประชาสัมพันธ์และทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มอื่นๆ

เพลงเอเปค (2)
ต้องขอโทษด้วยนะครับที่เอาตอนเก่ามาลง เพราะผมยุ่งกับเอเปคอยู่พอดี ตอนที่เขียนต้นฉบับนี้ก็เพิ่งจบการประชุมและแถลงข่าวโดยท่านนายกฯ ไปสดๆ ร้อนๆ ผมกลับมาที่ห้องทำงานก็ปั่นต้นฉบับต่อเลย เป็นอันว่าขอโม้เรื่องเพลงเอเปคต่อไปอีกหน่อยแล้วกันนะครับ เพราะหลังจากช่วงนี้แล้วก็คงโม้ไม่ได้
บรรทัดที่สองของเพลงมีว่า In a world of differences we are one อันนี้เป็นการยืม theme ที่ท่านนายกรัฐมนตรีตั้งสำหรับเอเปคปีนี้ ที่แปลว่า โลกแห่งความแตกต่าง ถ้าทั้งบรรทัดก็แปลว่า ในโลกแห่งความแตกต่างเราเป็นหนึ่งเดียว
Though the seas keep us apart, every word is from my heart แปลว่า แม้ว่าท้องทะเลจะแยกให้เราห่างกัน แต่ทุกคำพูดมาจากใจฉัน (อันนี้กลอนพาไปครับ เพราะเวลาเจรจากันจริงๆ ต่างฝ่ายก็ต่างงัดเล่ห์กลสารพัดออกมาใช้)
บรรทัดต่อไปมีว่า Hand in hand, we’ll see each other through = เราจะจูงมือกัน ช่วยกันและกันให้ตลอดรอดฝั่ง
Hand in hand เป็นสำนวนกริยาคุณศัพท์ แปลตรงตัวว่า มือในมือ ความหมายก็คือ โดยจับมือกัน เช่น We strolled hand in hand through the park. = เราเดินจูงมือกันทะลุผ่านไปในสวนสาธารณะ (stroll = เดินอย่างสบายๆ)
ส่วน to see each other through ไม่เหมือนกับ to see through each other นะครับ อันแรกหมายความว่าช่วยประคับประคองกันไปให้ถึงฝั่ง ถ้าเป็น see (something) through โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาพูดเกี่ยวกับหน้าที่ภารกิจ ก็หมายความว่าทำให้สำเร็จลุล่วงไป
ส่วนอันหลังหมายถึง มองทะลุกันและกัน คือมองกันออกว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร เช่น Though I tried to appear strong, she saw right through me. = แม้ว่าผมจะพยายามทำท่าเข้มแข็ง เธอก็ยังดูผมออกทะลุปรุโปร่ง

เพลงเอเปค (3)
ขออนุญาตโม้เรื่องเพลงเอเปคต่ออีกหน่อยนะครับ ท่อนที่สองร้องว่า Drawing strength from our great diversity = ดึงพลังจากความหลากหลายมากมายของเรา (เอเปคถูกวิจารณ์เสมอว่ามีความหลากหลายมากเกินไปจึงทำให้หาจุดยืนร่วมกันได้ยาก แต่ข้อแก้ตัวประจำของเอเปคก็คือความหลากหลายเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งก็คงต้องดูกันต่อไป)
Giving hope for generations to come = ให้ความหวังสำหรับชั่วคน (ไม่ใช่คนชั่วนะครับ) ต่อๆ ไปในภายภาคหน้า (for generations to come เป็นวลีที่มักใช้เวลาพูดถึงอะไรที่จะส่งผลต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน เช่นถ้าเราไม่ชอบที่ประธานาธิบดีบุชหาข้ออ้างโน้นข้ออ้างนี้มาลดภาษีสำหรับคนรวยก็อาจกล่าวว่า The effects of his policies will be felt for generations to come. = ผลจากนโยบายของเขาจะส่งแรงกระทบต่อไปอีกชั่วลูกชั่วหลาน)
Making our community ever more open and free = ทำให้ประชาคมของเราเปิดและเสรีมากยิ่งๆ ขึ้นไป (community แปลว่า ชุมชน หรือ ประชาคม ก็ได้ เช่น community college = วิทยาลัยชุมชน international community = ประชาคมระหว่างประเทศ)
Come with me, let’s make our dreams come true = มากับฉัน เราทำให้ฝันของเรากลายเป็นจริงกันเถอะ (ประโยคนี้ไม่มีอะไรมาก คงไม่ต้องอธิบาย)
ท่อนซ้ำก็ร้องว่า Partnership for prosperity = ความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความมั่งคั่ง Partnership from diversity = ความเป็นหุ้นส่วนจากความหลากหลาย Partnership comes from you and me = ความเป็นหุ้นส่วนมาจากเธอกับฉัน Let us build a partnership for the future = เรามาสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่ออนาคตกันเถอะ (ไม่ต้องบอกก็คงเดาได้นะครับว่าเพลงชื่อ Partnership)

No comments: